สำนักข่าวต่างกันหันมา
“เล่นข่าว” นี้ กันอย่างคับคั่ง
ผมขอยกตัวอย่างจากพาดหัวข่าวเรื่อง “ตื่นวันสิ้นโลก 21/12/12
คนแห่กักตุนอาหาร เทียนไข” จากสำนักข่าว mthai เพื่อนำมาวิเคราะห์วิจารณ์ก็แล้วกัน
อีกเพียง 8 วันก็จะถึงวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012 ซึ่งตามปฏิทินของชนเผ่ามายันได้ทำนายไว้ว่าจะเป็นวันสิ้นโลก
ดวงอาทิตย์จะหายไปเป็นเวลา 3-7 วัน
ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวสดได้รายงานถึงสถานการณ์ของชาวบ้านในจังหวัดสกลนครว่าเกิดการแตกตื่นเล่าลือวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไปอย่างหนาหู
แห่กักตุนอาหารสำเร็จรูป น้ำดื่มและเทียนไขเพื่อให้ดำรงชีวิตได้หลายวัน
ทั้งนี้่ชาวบ้านยังแห่ซื้อสินค้าประเภทเครื่องทำบุญสังฆทาน
น้ำดื่ม เทียนไข มาม่า ปลากระป๋องมากผิดปกติ
เพราะต้องการนำไปทำบุญและกลัวว่าโลกจะดับเพราะดวงอาทิตย์หายในวันที่ 21 ธ.ค. นี้
ขณะที่กลุ่มพยัคฆภูเพ็ก ซึ่งประกอบไปด้วยนายสรรค์สนธิ บุญโยทยาน
นักภิภพวิทยา ผู้เชี่ยวชาญดาราศาตร์, นพ.ศิริโรจน์
กิตติสารพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ,อาจารย์วรวิทย์
ตงศิริ หรือฤาษีเอก อมตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณและลึกลับศาสตร์ และลุงบุปผา
ดวงมาลย์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้รู้จักปราสาทภูเพ็กทุกซอกทุกมุม
ได้ร่วมกันพิสูจน์ ว่าวันที่ 21 ธ.ค. จะเป็นวันสิ้นโลกหรือไม่ โดยบอกว่าในวันนั้นเป็นวัน
“เหมายัน” คือกลางคืนจะยาวที่สุด
และโลกยังคงอยู่ต่อไป
โดยนายสรรค์สนธิกล่าวว่าเราทั้งสี่คนจะพิสูจน์ให้เห็นว่า “แกนโลก” ยังคงอยู่ที่ 23.5 องศา
และขั้วโลกเหนือก็ยังคงชี้ไปที่ “ดาวเหนือ” ดวงอาทิตย์จะมาตามนัดที่ตำแหน่งมุมกวาด 115 องศา ตรงตำแหน่งรอยสลักสัญลักษณ์ของสุริยะปฏิทินขอมพันปี
ทั้งหมดนี้จะใช้หลักฐานทางดาราศาสตร์ของบรรพชนโบราณที่ปรากฏอยู่บนปราสาทภูเพ็กเป็นตัวช่วย
โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ไฮเทคใดๆทั้งสิ้น
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า ก็มีความตื่นกลัวเรื่อง 21
ธ.ค. วันสิ้นโลก เช่นกัน ที่ชายแดนไทย-พม่าด้าน
จ.ระนอง-เกาะสองมีชาวพม่ารวมถึงพ่อค้าพม่าทางตอนใต้ได้เดินทางเข้ามายังจังหวัดระนองเพื่อหาซื้อสินค้าที่จำเป็น
อาทิ อาหารประป๋อง,น้ำมันพืช,ผงชูรส,บะหมี่สำเร็จรูปนำไปกักตุนไว้
ทำให้สินค้าในห้างสรรพสินค้าใหญ่หมดในหลายรายการ
ที่รัสเซียก็เป็นอีกประเทศที่ประชาชนมีความหวาดกระต่อกระแสวันสิ้นโลก
21 ธ.ค.
ซึ่งก็มีพ่อค้าหัวใสทำชุดเครื่องมือรับวันสิ้นโลกออกมาวางจำหน่ายในนั้นประกอบด้วย
ปลากระป๋อง ไม้ขีดไฟ เทียนไข สบู่ เชือกยา ผ้าพันแผล สมุดโน้ต และวอดก้า
ด้านเมืองบาร์นวล ติดกับเทือกเขาอัลไต ชาวบ้านกว้านซื้อไฟฉายและกระติกน้ำจนแทบขาดตลาด
ส่วนที่เมืองโอมุตนินส์ค ในแคว้นคิรอฟ ชาวบ้านก็พากันแห่ซื้อน้ำมันก๊าด
เสบียงและอุปกรณ์อื่นๆ ขณะที่โนโวคุซเนทส์เกลือเริ่มขาดตลาด
|
ขอแถมด้วยพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
“นับถอยหลัง
วันสิ้นสุดโลก พลิกปูม‘รหัสผวา’ ‘21/12/2012’อวสาน?” อีกนิดหน่อย ดังนี้
“21/12/2012” วันที่ 12
เดือน ธ.ค.ปี ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 นี้
เป็นวันที่มีกระแสลือว่าจะเป็นวันสิ้นโลกโดยมีการตีความยึดโยงกับ “ปฏิทินมายา” ปฏิทินโบราณอายุราว 5 พันปี
ของชนเผ่ามายา
อย่างไรตาม กับกระแสลือเรื่องสิ้นโลกนั้นจริง ๆ
มิใช่เพิ่งจะมามีกรณี “21/12/2012” แต่มีมานานแล้วกับหลาย
ๆ กรณี
ยกตัวอย่างเช่น... ในปี พ.ศ.2371 มีนักดาราศาสตร์เยอรมนีคำนวณว่า
จะมีดาวหางดวงหนึ่งโคจรผ่านโลกในระยะใกล้มากจนทำให้อากาศบนโลกเป็นพิษเพราะฝุ่นละอองดาวหาง
ซึ่งผู้คนจำนวนหนึ่งก็แตกตื่นว่าจะเป็นวันแห่ง “จุดจบของมนุษยชาติ”
และบางกรณีก็ลือว่า จะมีดาวอื่นมาชนโลก ในปี 2546 หรือบางกรณีก็
ทำนายว่า “โลกจะหายนะ” ในวันที่ 21
พ.ค. 2554 แล้วตอนหลังขยับเป็น 21 ต.ค.
2554
ในปี พ.ศ.2405 มีนักดาราศาสตร์อเมริกัน 2 คนคำนวณว่า วันที่ 14
ส.ค. ปี พ.ศ.2669 จะมีดาวหางดวงหนึ่ง เส้นผ่าศูนย์กลางราว 10 กิโลเมตร
โคจรมาใกล้โลก ซึ่งถ้าดาวหางดวงนี้ชนโลกจะร้ายแรงเท่าระเบิดนิวเคลียร์ 1 ล้านลูก
และแม้นักดาราศาสตร์จะชี้ว่าโอกาสชนมีเพียง 0.01% แต่ก็ไม่วายเกิดเสียงลือเรื่องวันสิ้นโลก
หรืออีกกรณีคือ วันที่ 13 เม.ย. ปี พ.ศ.2572
ดาวเคราะห์น้อยชื่ออะโพฟิสจะโคจรผ่านมาใกล้โลกมาก ๆ
เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น ๆ ที่มีวงโคจรใกล้โลกที่มีการค้นพบ
โดยอัตราส่วนโอกาสชนโลกคือ 1 ใน 38 หรือ 2.6%
ซึ่งแม้นักดาราศาสตร์จะคำนวณได้ว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะไม่ชนโลก
หรือแม้แต่ดวงจันทร์ จะแค่เฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างราว 64,400 กิโลเมตร
แต่กรณีนี้ก็จุดกระแสวันสิ้นโลกเช่นกัน
อีกกรณีร่ำลือ ที่โยงกับปี ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 ด้วย
แต่ไม่ได้โยงกับปฏิทินมายา คือลือกันในช่วงปี 2552 ว่า เมื่อถึง ปี พ.ศ.2555
จะเกิดมหาอุทกภัยน้ำท่วมโลก
โดยลือลงรายละเอียดกันว่าเรื่องนี้ผู้ที่เปิดเผยเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ทำงานในองค์การนาซ่าของสหรัฐอเมริกา
ลือกันด้วยว่าทางนาซ่าแอบสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลกไว้แล้ว
และยิ่งไปกว่านั้นคือลือกันว่า มีมนุษย์ต่างดาวมาช่วย
โดยสื่อสารด้วยโทรจิต
มาถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านนาซ่าเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดจากน้ำท่วมโลก
แต่มนุษย์ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะรอดเหล่านี้ก็เป็นตัวอย่างกระแสลือ-เรื่องที่ทำให้ลือกับการ
“หวาดผวา” ของชาวโลก เรื่อง “สิ้นโลก”
และกับกระแสสิ้นโลกที่มีมาแต่อดีตกาล ทั้งที่เป็นเรื่องลือล้วน ๆ
และที่อิงกับเรื่องจริงบางส่วน ก็ถึงขึ้นมี “ทฤษฎีสิ้นโลก
(Doomsday Theories)” ชี้ว่า การสิ้นโลกจะเกิดได้จาก “เหตุปัจจัย 10 ประการ” คือ...
“สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ”
“น้ำมันขาดแคลนอย่างสิ้นเชิง"
“ก่อการร้ายทำลายโลก”
“สงครามโลกครั้งที่ 3 - สงครามนิวเคลียร์"
“วิกฤติโลกร้อน"
“ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่"
“มนุษย์ต่างดาวบุกโลก"
นอกจากปัจจัยดังที่ว่ามาแล้ว อีก 3
เหตุปัจจัยที่เหลือนั้นก็มีการยึดโยงกับกระแสลือสิ้นโลกในปี ค.ศ.2012 นี้
กล่าวคือ... “ภัยพิบัติจากดวงอาทิตย์" เชื่อว่าหาก
ดวงอาทิตย์เกิดการปะทุครั้งใหญ่มาก ๆ ความร้อนจะแผ่มาแผดเผาโลก,
“สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้ว"
เชื่อว่าเกิดทุก 2.5 แสนปี เมื่อเกิดขึ้น สภาพอากาศโลกจะกลับด้าน
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง พายุหมุนกระหน่ำโลก,
“ดาวนิบิรุชนโลก" เชื่อว่า เป็นดาวลึกลับในตำนาน
ขนาดใหญ่กว่าโลก และในปี ค.ศ.2012 มีวงโคจรทับกับโลก
จะพุ่งเข้าชนโลกจะเห็นได้ว่ากระแสลือเรื่องสิ้นโลกมีหลากหลาย
|
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ
“เรื่องปลาบู่ต้ม”
ไม่ได้อยู่ในความสนใจของสำนักข่าวต่างๆ
อาจจะยังไม่ถึงเวลาก็ได้ เพราะ
เด็กชายปลาบู่ทำนายครั้งสุดท้ายก็คือ วันที่ 31/12/2012
เรื่องทั้งหมดทั้งปวงนั้น ผมยังขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงที่จะมีเหตุการณ์ทำให้คนตายหมดไปทั้งโลก
หรือเกือบหมดไปทั้งโลก
สำหรับเหตุการณ์
“อุบัติภัย” ต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ อาจจะมีเกิดขึ้น แต่ไม่มีทางที่จะทำให้คนทั้งโลกตายไปหมดได้
ยิ่งสำหรับคนไทยด้วยแล้ว
เหตุการณ์ที่จะทำให้คนไทยตายเป็นเบือจนหมดไปค่อนประเทศก็ไม่มีทางเป็นไปได้
ขออธิบายด้วยหลักวิชาธรรมกาย
ดังนี้
โลกนี้
เป็นที่สร้างบารมีของมนุษย์
มนุษย์ส่วนใหญ่เกิดมาเพื่อสร้างบารมีเพิ่มเติม ในการสร้างบารมีของมนุษย์นั้น มนุษย์ไม่ได้สร้างแต่ผู้เดียว
ยังมีจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาร่วมสร้างบารมีด้วย
ผู้ที่เกิดมาแล้ว
และสามารถสร้างบารมีได้อย่างสม่ำเสมอ
และมีประสิทธิภาพก็เป็นคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น
ดังนั้น
ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่เป็นคนมีบุญมาเกิดมากที่สุด
และมีจักรพรรดิมาปกปักรักษาอยู่อย่างนับไม่ถ้วน
เหตุการณ์ร้ายแรงอย่างที่ตาแหกกันไป จึงไม่มีโอกาสเกิดขึ้นในเมืองไทยแน่นอน
คำนายที่บ้าๆ
บอๆ แต่ดูเหมือนจริง พร้อมทั้งคำวิพากษ์วิจารณ์ หาอ่านที่นี่
คำทำนาย
|
01-เด็กชายปลาบู่ต้ม
http://plabutom.blogspot.com
|
02-“พุทธทำนาย” จริงหรือ http://buddhaprediction.blogspot.com
|
03-พระอรหันต์ทำนาย
http://arahantprediction.blogspot.com
|
04-เกาะภูเก็ตจมน้ำ
http://phuketsubmerge.blogspot.com
|
05-พุทธทำนาย
16 ประการ http://budhaprediction.blogspot.com/
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น