บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

"โดนของ"


"โดนของ"

ผมไปอ่านพบเรื่องนี้ ในเว็บอร์ดแห่งหนึ่ง  สันนิษฐานว่าเป็นเรื่องจริง ก็ลองอ่านกันดู (ลอกมาทุกตัวอักษร)....

*-*-*-*

ผมอยู่กับพ่อ 2 คน ที่บ้านเป็นดึกหอพักเก่า แต่ปัจจุบันโดนแม่ที่หย่ากับพ่อแล้วเอาไปรีไฟแนนท์ แล้วปล่อยไม่ส่ง หวังจะให้ทางพ่อผมรับภาระเรื่องตึก แต่พ่อก็ไม่รับ พ่อบอก "สมบัติที่ดินบ้านช่องก็เอาไปขายหมด เรา2คนไม่ได้อะไรสักอย่างมีแต่เสีย แล้วจะไปรับภาระให้มันทำไม" 

แต่พ่อก็ยังอยู่ที่ตึกนั้นครับ ผ่านการประมูลกรมบังคับคดีมา 2รอบ รอบล่ะ 6 ครั้ง ก็ไม่มีใครเอา แต่ทางแม่ก็คิดว่าที่ขายไม่ได้เพราะพ่อยังอยู่ที่ตึก ล่าสุดก่อนหน้า มีคนเข้ามางัดขโมยพระเลี่ยมทองพ่อไปหมดเลย ทำให้เราเริ่มระแวงก็เลยติดกล้องวงจรปิด

หลังจากนั้นไม่นานอยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาที่บ้านดึก เดิน ดุ่มๆ เข้ามาแล้วก็ ออกไป ดูเหมือนไม่มีอะไร แม่โทรมาบอกว่า พี่แหม่มเข้ามาหาแต่ไม่เจอ

พ่อผมก็ดูย้อนหลังหลายรอบ ดูยังไงไอ้คนที่เข้ามาก็ไม่ใช่พี่แหม่ม แถมตอนเข้ามาเหมือนจะถืออะไรมาด้วย แต่ตอนออกที่ถือมามันไม่มีแล้ว ผมกับพ่อก็เลยเดินดูรอบๆบ้าน ขึ้นไปดูชั้นบนก็ไม่เจออะไรเลยไม่ได้คิดอะไรต่อ

หลังจากนั้นแค่วันเดียว ตัวผมเองนอนไม่ได้ นอนไม่ได้จริงๆ มันร้อนระงมยังกับไฟสุมทรวง สวดมนต์ไหว้พระแล้วก็ยังนอนไม่ได้ ต้องเอาหลวงปู่สุขที่ได้สืบทอดมาจากตระกูลมาห้อยคอนอน ถึงหลับได้ปกติยันเช้า

ส่วนพ่อผมเองก็บอกบ่นๆว่า มันรู้สึกหงุดหงิดผิดปกติ ใจร้อน เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด เมื่อเช้าไปทำงานก็ดันไปด่ายามซะงั้น ก็เป็นแบบนี้ได้สัก 3 4 วันชักเริ่มหนักขึ้นๆ พ่อก็ไปจุดธูปบอกเศียรพ่อแก่กับยาย (ครูบาอาจารย์พ่อ พ่อเรียกครูตัวเองว่า ยาย) 

วันนั้นก็ฝันว่า ยายให้ไปดูหลังบ้าน เสนียจยิ้มอยู่หลังบ้านประมาณนี้ หลังบ้านเราไม่ได้ติดกล้องจงจรปิดไว้ คิดแค่โซนหน้าบ้านจะดูใครเข้าใครออกเฉยๆ 

วันรุ่งขึ้นตอนเช้าพ่อก็เดินไปดูหลังบ้าน เดินหาสักพักก็ไม่เจออะไร แต่ตอนจะเดินออกมาดันไปเห็นอะไรแปลกๆ ที่มุมรั้วหลังบ้าน เลยไปดู มันเป็นผ้าสีแดงผืนใหญ่พับเป็นรูปธงเสียบไว้ที่มุมรั้ว ถ้าบ้านผมมีพื้นดินเค้าก็คงจะฝังเหมือน จขกท แน่ แต่ที่บ้านเป็นพื้นปูนหมด ไม่มีดินสัก ตร.นิ้ว เลย 

เค้าก็เลยไปขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อวัดเขาปลาร้าที่เป็น ลูกศิษย์ยายอีกคนมา ก็เอามาพรมมาราด  แล้วก็ทิ้งไว้ก่อน ตอนเย็นกลับมาบ้านก็จุดไฟเผาผ้าแดง 

ขอบอกว่า เป็นผ้าอะไรที่ไหม้ยากมาก กว่าจะไหม้เกลียมเป็นขี้เถ้าหมดหนังสือพิมพ์ไปหลายฉบับเลย จบหลังจากวันนั้นหลวงพ่อก็บอกเค้าเล่นของใส่เรา โชคดีที่เรามีพ่อแก่มียายคุ้มครองไม่งั้นหนักกว่านี้ หลังจากวันที่เผาผ้าแดงไปแล้ว ก็เริ่มปกติไม่กระวนกระจายอะไรแล้วครับ 

ผมเองก็ไม่ได้อะไรกับแม่ครับ ไม่รู้สึกจะด่า จะว่าอะไร คิดในใจแค่ว่า แม่ก็คือแม่ พ่อก็คือพ่อ แค่นั้น ส่วนจะทำกรรมอะไรก็รับผลกรรมกันเอง ผมเองก็ทำหน้าที่ลูกปกติ ไม่เคยคิดจะเกลียดใครให้เป็นบาปตามตัว

*-*-*-*

วิพากษ์วิจารณ์...

เรื่องนี้ เป็น "เรื่องของพ่อ-แม่" ของเจ้าของกระทู้ ผู้เล่าเรื่อง ก็ควรจะเป็นเรื่องจริง  

ไสยศาสตร์ในเรื่องที่เล่ามานี้ "เป็นจริงหรือไม่"   

คำตอบก็คือ "น่าจะเป็นจริง"   

โดยหลักการแล้ว.....

=-=-=-=

 "ไสยศาสตร์" เป็นของจริง ทำได้จริง ทำอันตรายให้คนถึงตายได้จริง

=-=-=-=

ไสยศาสตร์นั้น มีตำรา มีการเรียนการสอน คู่กันมากับศาสนาเลยก็ว่าได้   พระจำนวนมากเลย ก็เก่งด้านไสยศาสตร์ 

การที่พระไปเล่นไสยศาสตร์นี่ไม่ถูกต้อง เป็น “สีลัพพตปรามาส”  คือ ไปนับถือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

แต่ขอย้ำว่า "ปัจจุบัน พวกหลอกลวงมนุษย์ เอาไสยศาสตร์ปลอมๆ ไปหลอกกันมาก"  

จนกระทั่งว่า  ไสยศาสตร์ของจริงนั้น มีอยู่น้อยมาก

การแก้ปัญหาไสยศาสตร์ในเรื่องที่เล่ามานั้น  คือ เอาไสยศาสตร์ไปแก้ไสยศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่ "หนทางที่ถูกต้อง" เพราะจะวนเวียนอยู่ในแวดวงของไสยศาสตร์ตลอดไป

ไสยศาสตร์นี้ "กลัว" วิชาธรรมกายมาก  วิชาธรรมกายอยู่ที่ไหน ไสยศาสตร์ไม่กล้าอยู่ที่นั่น 

ผมขอยืนยันจากประสบการณ์ "การรบกับไสยศาสตร์" มาเป็นประจำว่า "ไสยศาสตร์" นั้น กลัววิชาธรรมกายจริงๆ 

คนที่โดนไสยศาสตร์กระทำนั้น  เราทำวิชาครั้งเดียวก็ช่วยได้แล้ว

อย่างไรก็ดี...  มีกรณีตัวอย่างที่มีปัญหา ดังนี้

เพื่อนคนหนึ่ง ที่เรียนปริญญาเอกด้วยกัน ทำงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ  บอกมาว่า "ช่วยหลานชายหน่อย"

หลายชายของเขาถูกผู้หญิงทำไสยศาสตร์ใส่ ต้องไปหาผู้หญิงเป็นประจำ ผู้หญิงคนนั้น ก็มีผู้ชายทำนองนี้หลายคน

แต่แรกเลยผมก็บอกว่า "เธอทำงานกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จบมาทางวิทยาศาสตร์ เชื่อเรื่องนี้ด้วยหรือไง" 

โดยสรุปก็คือ.....

ทำวิชาช่วย เราก็ดับคุณไสยไปเรียบร้อย   แต่ก็ปรากฎว่า "หลานผู้ชายของเพื่อนก็ยังคงไปหาผู้หญิงเหมือนเดิม" 

ผมก็สงสัยว่า "มันเกิดอะไรขึ้น"  

ก็ตรวจสอบใหม่ พบว่า... มันเป็นกิเลสของหลายของเขาเอง ตอนนี้ ไสยศาสตร์ไม่ได้มาเกี่ยวพันอะไรแล้ว

เป็นความเลวของตนเองล้วนๆ 

บางคนก็อาจจะสงสัยว่า.... คนทำไสยศาสตร์มีสิทธิอะไรที่ไปทำของใส่คนอื่น

คำตอบก็คือ...... พวกโจรปล้นคน พวกขโมย พวกมิจฉาชีพ มันก็ไม่สิทธิอะไรที่จะไปทำกับคนอื่นเช่นกัน แต่ "ความเลว" ของเขาบังคับให้ทำ

ใครทำกรรมชั่วอะไรไว้ ต้องได้รับผลของกรรมชั่วนั้นแน่ๆ  ทำกรรมชั่วด้วยไสยศาสตร์นี่ ผลของกรรมชั่วรุนแรงมาก

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น