บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ไม่มีศาสนาเลวกว่าสัตว์นรก... น่าจะเท่าโลกันต์นรก


ไม่มีศาสนาเลวกว่าสัตว์นรก... น่าจะเท่าโลกันต์นรก

มีแฟนคลับ ถามมาว่า "พวกไม่มีศาสนานั้น เลวขนาดไหน"  

คำตอบก็คือ "ก็น่าจะเลวเท่ากับโลกันต์นรก"  

เอาหลักการทางทฤษฎีก่อน...

จักรวาลของศาสนาพุทธนั้น จะประกอบด้วย "ภพ" จำนวน ๓ ภพใหญ่คือ นิพพาน, ภพ ๓, โลกันต์ 

นิพพานเป็น "ภพ" หรือที่อยู่ของผู้ที่ได้สร้างความดีสูงสุด จนสามารถกำจัด "กิเลส" ได้หมด กำจัด "สังโยชน์" ได้หมด  

เมื่อขึ้นไปอยู่ในอายตนะนิพพานแล้ว ก็ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก 

โลกันต์เป็น "ภพ" หรือที่อยู่ของผู้ที่ได้สร้างกรรมชั่วสูงสุด โลกันตนรกถึงจะดึงดูดลงไปได้ 

ภพ ๓ ก็เป็นภพที่พวกเราต้องมาเกิดเพื่อสร้างบารมี 

คนที่พลาดไปทำความชั่วเข้า ก็ต้องถือว่า ภพ ๓ เป็นภพที่พวกเขาเกิดมาสร้างความชั่ว

ปัญหาที่น่าสงสัยก็คือ  ทำความชั่วระดับใด ถึงจะได้มีโอกาสไปอยู่ใน "โลกันต์นรก"  

บุคคลที่กระทำความชั่วสุดๆ ในประวัติศาสตร์ของเราก็คือ "พระเทวทัต"  พระเทวทัตยังตกแค่นรกอเวจี ที่อยู่ในภพ ๓ นี้

หลวงพ่อวัดปากน้ำสอนไว้ ดังนี้...

คนเรามี ๑๘ กาย แต่ละกายจะมีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย  หรือเราจะเรียกกันว่า "ดวงธรรม ๑"  ก็คือ ดวงธรรมที่ ๑ ในดวงธรรม ๖ ดวง

ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้น ใหญ่ไม่เท่ากัน  ของกายมนุษย์ก็ประมาณ "ไข่แดงของไข่ไก่" 

กายอื่นๆ ของกายโลกีย์ก็ใหญ่เป็นเท่าๆ ไป  เมื่อถึงกายอรูปพรหมละเอียด ดวงธรรมก็จะใหญ่กว่าของกายมนุษย์ ๘ เท่า ซึ่งก็คือ ๘ เท่าของไข่แดงของไข่ไก่

สำหรับกายธรรมนั้น  ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายจะใหญ่เท่ากับหน้าตักของกายธรรม 

ดังนั้น กายธรรมพระอรหัตละเอียด ก็จะมีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย กว้าง ๒๐ วา

นี่แหละเป็นที่มาของคำว่า

*-*-*-*

ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา

ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม

*-*-*-*

ธรรมหรือดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้น อยู่ในกายธรรมพระอรหัต  เราก็จะเห็น กายธรรมนั่งอยู่ในดวงธรรม  

ขอให้ดูภาพ "นิพพาน"  นิพพานไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมนำภาพกายธรรมในดวงธรรมมาเป็นสัญญลักษณ์ 

ผู้ที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้นั้น  ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัตละเอียด จะใสสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีฝุ่น ไม่มีขนแมวใดๆ เลย 

ผู้ที่จะได้มีโอกาสไปโลกันต์นรกได้นั้น ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัตละเอียด ก็จะ "ดำบริสุทธิ์" จริงๆ ไม่มีสีขาวเข้ามาปนแม้แต่นิดเดียว

โลกันตนรกมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง.... 

ตำราท่านว่าไว้ ดังนี้...

***********************************************************

ก็ในโลกันตนรกนี้ มีสถาพมืดมนเป็นยิ่งนัก แสงดาวแสงเดือนและแสงตะวันส่องไปไม่ถึง สัตว์ที่ไปอุบัติเกิดในโลกันนรกนี้ มีสรีระร่างกายโตใหญ่เป็นยิ่งนัก ประกอบไปด้วยเล็บมือและเล็บเท้ายาวเหลือประมาณ ต้องใช้เล็บมือและเท้าเกาะอยู่ตามเชิงเขาจักรวาลห้อยโหนโยนตัว โดยเอาหัวปักลงมาข้างล้างชั่วนิรันดร์ 

เขาไม่ได้อยู่แต่เพียงผู้เดียวดอก มีอยู่มากมายที่สัตว์บุคคลทั้งหลายตายแล้วไปเกิดที่มันมืดแสนมืด มองไม่เห็นเพื่อนสัตว์นรกโลกันตนรกด้วยกัน และมองไม่เห็นอะไรเลยนั้นเอง

สัตว์นรกโลกันตนรก จะห้อยโหนโยนตัวเปะปะด้วยความหิวโหยอย่างเหลือประมาณ ครั้นปีนป่ายตะกายไปถูกต้องตีนมือแห่งกันและกันเข้าแล้ว ต่างตนต่างก็จะตะครุบกันกินเป็นอาหาร

ก็เผลอปล่อยมือและเท้าที่ใช้เกาะเชิงชายภูเขาจักรวาลนั้นเลยกันดำดิ่งนรกพลัดตกลงไปเบื้องล่าง 

สถานที่เบื้องล่างที่เขาพากันพลัดตกลงมานั้น เป็นทะเลนำกรดอันเย็นยะเยือก ซึ่งมีความเย็นอย่างร้ายกาจยิ่งนัก พอถึงพื้นน้ำกรดนั้นแล้ว ร่างกายของเขาก็เปื่อยพังแหลกลาญลงอย่างไม่มีชิ้นดี ร่างกายอันใหญ่โตและเหม็นสาบเหม็นสางน่าเกลียดน่าชังของเขา ถึงความเหลวแหลกละลายเพราะฤทธิ์น้ำกรดไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยอำนาจกรรมบันดาล เขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดมหัศจรรย์กลับเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาอย่างเก่า ให้รู้สึกหนาวเย็นและเจ็บปวดอย่างลึกเป็นกำลัง จึงรีบตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นมาเกาะเชิงเขาจักรวาลด้วยความลำบากยากเย็น แล้วก็ห้อยโหนโยนตัวแสวงหาอาหารด้วยความหิวโหยต่อไปอีกตามเดิม 

***********************************************************

ผมและคณะเคยทำวิชาไปตรวจสอบดู ก็เป็นไปอย่างที่ตำราว่าไว้

บางคนอาจจะแย้งว่า... คนที่ไม่มีศาสนาบางคน เขาก็เป็นคนดี ไม่เห็นทำความชั่วอะไร...

คำตอบ... ที่ผมฟันธงไปว่า พวกนี้จะไปโลกันต์นรกนั้น ไม่ได้หมายความว่า "ชาตินี้เพียงชาติเดียว"  พวกนี้จะสะสมกรรมชั่วไปทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งได้ไปอยู่ในโลกันต์นรก

ในโลกันต์นรกนั้น มีสัตว์นรกโลกันต์อยู่เป็นจำนวนมาก 

สัตว์นรกโลกันต์นั้น ยังมีโอกาสมาเกิด เพื่อสร้างบารมีได้  แต่ต้องชดใช้กรรมไปอย่างยาวนาน จนไม่กล้าจินตนาการถึงความยาวนานอันนั้น

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น