ไม่มีศาสนาเลวกว่าสัตว์นรก... น่าจะเท่าโลกันต์นรก
มีแฟนคลับ ถามมาว่า "พวกไม่มีศาสนานั้น เลวขนาดไหน"
คำตอบก็คือ "ก็น่าจะเลวเท่ากับโลกันต์นรก"
เอาหลักการทางทฤษฎีก่อน...
จักรวาลของศาสนาพุทธนั้น จะประกอบด้วย "ภพ" จำนวน ๓ ภพใหญ่คือ นิพพาน, ภพ ๓, โลกันต์
นิพพานเป็น "ภพ" หรือที่อยู่ของผู้ที่ได้สร้างความดีสูงสุด จนสามารถกำจัด "กิเลส" ได้หมด กำจัด "สังโยชน์" ได้หมด
เมื่อขึ้นไปอยู่ในอายตนะนิพพานแล้ว ก็ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
โลกันต์เป็น "ภพ" หรือที่อยู่ของผู้ที่ได้สร้างกรรมชั่วสูงสุด โลกันตนรกถึงจะดึงดูดลงไปได้
ภพ ๓ ก็เป็นภพที่พวกเราต้องมาเกิดเพื่อสร้างบารมี
คนที่พลาดไปทำความชั่วเข้า ก็ต้องถือว่า ภพ ๓ เป็นภพที่พวกเขาเกิดมาสร้างความชั่ว
ปัญหาที่น่าสงสัยก็คือ ทำความชั่วระดับใด ถึงจะได้มีโอกาสไปอยู่ใน "โลกันต์นรก"
บุคคลที่กระทำความชั่วสุดๆ ในประวัติศาสตร์ของเราก็คือ "พระเทวทัต" พระเทวทัตยังตกแค่นรกอเวจี ที่อยู่ในภพ ๓ นี้
หลวงพ่อวัดปากน้ำสอนไว้ ดังนี้...
คนเรามี ๑๘ กาย แต่ละกายจะมีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย หรือเราจะเรียกกันว่า "ดวงธรรม ๑" ก็คือ ดวงธรรมที่ ๑ ในดวงธรรม ๖ ดวง
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้น ใหญ่ไม่เท่ากัน ของกายมนุษย์ก็ประมาณ "ไข่แดงของไข่ไก่"
กายอื่นๆ ของกายโลกีย์ก็ใหญ่เป็นเท่าๆ ไป เมื่อถึงกายอรูปพรหมละเอียด ดวงธรรมก็จะใหญ่กว่าของกายมนุษย์ ๘ เท่า ซึ่งก็คือ ๘ เท่าของไข่แดงของไข่ไก่
สำหรับกายธรรมนั้น ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายจะใหญ่เท่ากับหน้าตักของกายธรรม
ดังนั้น กายธรรมพระอรหัตละเอียด ก็จะมีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย กว้าง ๒๐ วา
นี่แหละเป็นที่มาของคำว่า
*-*-*-*
ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา
ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม
*-*-*-*
ธรรมหรือดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้น อยู่ในกายธรรมพระอรหัต เราก็จะเห็น กายธรรมนั่งอยู่ในดวงธรรม
ขอให้ดูภาพ "นิพพาน" นิพพานไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมนำภาพกายธรรมในดวงธรรมมาเป็นสัญญลักษณ์
ผู้ที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้นั้น ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัตละเอียด จะใสสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีฝุ่น ไม่มีขนแมวใดๆ เลย
ผู้ที่จะได้มีโอกาสไปโลกันต์นรกได้นั้น ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัตละเอียด ก็จะ "ดำบริสุทธิ์" จริงๆ ไม่มีสีขาวเข้ามาปนแม้แต่นิดเดียว
โลกันตนรกมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง....
ตำราท่านว่าไว้ ดังนี้...
***********************************************************
ก็ในโลกันตนรกนี้ มีสถาพมืดมนเป็นยิ่งนัก แสงดาวแสงเดือนและแสงตะวันส่องไปไม่ถึง สัตว์ที่ไปอุบัติเกิดในโลกันนรกนี้ มีสรีระร่างกายโตใหญ่เป็นยิ่งนัก ประกอบไปด้วยเล็บมือและเล็บเท้ายาวเหลือประมาณ ต้องใช้เล็บมือและเท้าเกาะอยู่ตามเชิงเขาจักรวาลห้อยโหนโยนตัว โดยเอาหัวปักลงมาข้างล้างชั่วนิรันดร์
เขาไม่ได้อยู่แต่เพียงผู้เดียวดอก มีอยู่มากมายที่สัตว์บุคคลทั้งหลายตายแล้วไปเกิดที่มันมืดแสนมืด มองไม่เห็นเพื่อนสัตว์นรกโลกันตนรกด้วยกัน และมองไม่เห็นอะไรเลยนั้นเอง
สัตว์นรกโลกันตนรก จะห้อยโหนโยนตัวเปะปะด้วยความหิวโหยอย่างเหลือประมาณ ครั้นปีนป่ายตะกายไปถูกต้องตีนมือแห่งกันและกันเข้าแล้ว ต่างตนต่างก็จะตะครุบกันกินเป็นอาหาร
ก็เผลอปล่อยมือและเท้าที่ใช้เกาะเชิงชายภูเขาจักรวาลนั้นเลยกันดำดิ่งนรกพลัดตกลงไปเบื้องล่าง
สถานที่เบื้องล่างที่เขาพากันพลัดตกลงมานั้น เป็นทะเลนำกรดอันเย็นยะเยือก ซึ่งมีความเย็นอย่างร้ายกาจยิ่งนัก พอถึงพื้นน้ำกรดนั้นแล้ว ร่างกายของเขาก็เปื่อยพังแหลกลาญลงอย่างไม่มีชิ้นดี ร่างกายอันใหญ่โตและเหม็นสาบเหม็นสางน่าเกลียดน่าชังของเขา ถึงความเหลวแหลกละลายเพราะฤทธิ์น้ำกรดไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยอำนาจกรรมบันดาล เขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดมหัศจรรย์กลับเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาอย่างเก่า ให้รู้สึกหนาวเย็นและเจ็บปวดอย่างลึกเป็นกำลัง จึงรีบตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นมาเกาะเชิงเขาจักรวาลด้วยความลำบากยากเย็น แล้วก็ห้อยโหนโยนตัวแสวงหาอาหารด้วยความหิวโหยต่อไปอีกตามเดิม
***********************************************************
ผมและคณะเคยทำวิชาไปตรวจสอบดู ก็เป็นไปอย่างที่ตำราว่าไว้
บางคนอาจจะแย้งว่า... คนที่ไม่มีศาสนาบางคน เขาก็เป็นคนดี ไม่เห็นทำความชั่วอะไร...
คำตอบ... ที่ผมฟันธงไปว่า พวกนี้จะไปโลกันต์นรกนั้น ไม่ได้หมายความว่า "ชาตินี้เพียงชาติเดียว" พวกนี้จะสะสมกรรมชั่วไปทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งได้ไปอยู่ในโลกันต์นรก
ในโลกันต์นรกนั้น มีสัตว์นรกโลกันต์อยู่เป็นจำนวนมาก
สัตว์นรกโลกันต์นั้น ยังมีโอกาสมาเกิด เพื่อสร้างบารมีได้ แต่ต้องชดใช้กรรมไปอย่างยาวนาน จนไม่กล้าจินตนาการถึงความยาวนานอันนั้น
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น