ใจหมองก่อนตาย ไปอบายด้วยบาป ใจใสก่อนตาย ไปสบายด้วยบุญ
ผมไปอ่านพบคำสอนที่ว่า... "ใจหมองก่อนตาย ไปอบายด้วยบาป ใจใสก่อนตาย ไปสบายด้วยบุญ" ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งในสื่อออนไลน์นี่แหละ
ไม่มีเวลาไปฟัง หรือไปอ่านโดยละเอียด แต่ขอฟันธงไปเลยว่า.....
*-*-*-*-*
คำสอนนั้น ไม่ถูกต้องโดยหลักการ เป็นการให้ความจริงเพียงส่วนเดียว
*-*-*-*-*
ขออธิบาย ดังนี้.....
จักรวาลทัศน์ของศาสนาพุทธ จะประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่คือ นิพพาน, ภพ ๓, โลกันต์
ใครทำดีสูงสุด คือ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัต ขนาด ๒๐ วา ใสบริสุทธิ์ ไม่มีจุดดำเลย เมื่อตายแล้วจะไปอุบัติอยู่ในอายตนะนิพพานตลอดไป
อาจจะบรรลุมรรคผลเป็นพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า
ใครทำชั่วสูงสุด คือ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัต ขนาด ๒๐ วา ดำบริสุทธิ์ ไม่มีจุดใสเลย
เมื่อตายแล้วจะไปเกิดใน "โลกันตนรก" ชดใช้กรรมชั่วอย่างยาวนาน เมื่อหมดกรรมแล้ว (กรรมเหลือน้อย) ก็จะมาเกิดในโลกมนุษย์ เพื่อสร้างบารมีใหม่
ตอนนี้ ประเด็นของ "นิพพาน" กับ "โลกันต์" ก็หมดไปแล้ว เหลือเพียงภพ ๓ อันประกอบด้วย...
- อรูปภพ ของ อรูปพรหม
- รูปภพ ของ รูปพรหม
- กามภพ อันประกอบด้วย สวรรค์ ๖ ชั้น, มนุษย์ และ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
อรูปภพนั้น ต้องตายขณะทรงฌาน ๕ - ๘
รูปภพนั้น ต้องตายขณะทรงฌาน ๑ - ๔
ดังนั้น..... ตอนนี้ก็เหลือเพียง กามภพ คือ สวรรค์ ๖ ชั้น, มนุษย์ และ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉานว่า
"เมื่อเราตายไปแล้ว จะไปอยู่ภพไหน" และ "ตัวชี้วัดคืออะไร"
ตัวชี้วัดว่า.. เราจะเกิด ณ ที่แห่งใดใน "สวรรค์ ๖ ชั้น, มนุษย์ และ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน" เป็นอะไร ระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ ฯลฯ ก็คือ
*-*-*-*-*
ดวงบุญ-ดวงบาป
*-*-*-*-*
ดวงบุญ-ดวงบาปจะคำนวณกันเอง และจัดการกันเอง สำหรับดวงไม่บุญไม่บาปนั้น จะไปผสมโรงกับดวงไหนที่ใหญ่กว่า
ถ้าดวงบุญใหญ่กว่า ก็ไปเข้าข้างดวงบุญ ถ้าดวงบาปใหญ่กว่า ก็ไปเข้าข้างดวงบาป
นี่คือหลักใหญ่.....
สำหรับข้อความที่ว่า... ***ใจหมองก่อนตาย ไปอบายด้วยบาป ใจใสก่อนตาย ไปสบายด้วยบุญ*** นั้นเป็นกรณียกเว้น
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านเรียกว่า "หลงตาย"
กล่าวคือ.... ดวงบุญใหญ่กว่า ก็ควรจะไป "สุคติภูมิ" แต่ปรากฎว่า "ช่วงที่จะตายนั้น นึกถึงแต่บาป"
ดวงบาปจึงส่งผลให้ไป "ทุคติภูมิ" ก่อน
กรณีนี้ ถึงแม้จะเป็นกรณียกเว้นแต่ "ก็มีให้เห็นเป็นประจำ"
ผมและคณะเคยไปช่วยสัตว์ในนรก แค่บอกไปว่า "ให้นึกถึงบุญที่ทำไว้ อย่าไปนึกถึงบาป" ก็มีสัตว์นรกหลุดจากนรกไปสวรรค์กันมากมาย
มีบางกรณีเหมือนกัน ที่ "หลงตาย" ไปทางสุคติภูมิ
มีพระรูปหนึ่งโด่งดังมากๆ ในเมืองไทยของเรานี่แหละ ท่านไม่เชื่อพระไตรปิฎกว่า เป็นของจริงทั้งหมด
ท่านไปเชื่อวิทยาศาสตร์กับปรัชญามากกว่า
ท่านบอกให้ฉีกพระไตรปิฎกทิ้่งไปประมาณร้อยละ ๗๕ คือ เรื่องไหนที่ไม่เข้ากับวิทยาศาสตร์ เรื่องไหนไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล ให้ฉีกทิ้งไป
ตอนนั้น ท่านอยู่บนสวรรค์ชั้น ๒
ผมและคณะไปเรียกท่านมา... แล้วบอกว่า คำสอนของท่านนั้น ทำให้เราเผยแพร่ศาสนาลำบาก ท่านสอนไม่ถูก
ท่านก็แก้ตัวว่า.... ไม่นึกว่าจะเป็นอย่างนี้ ตอนนั้น กายเทวดาเริ่มหมองแล้ว
ผมบอกไปอีกว่า.... กรรมชั่วของท่านที่หนักหนาสาหัสก็คือ ยุให้คนฉีกพระไตรปิฎกทิ้ง
เท่านั้นเอง... ท่านลงนรกไปเลย
เวลาผมไปสอนในนรก ท่านยังไม่ยอมฟังเลย หันหลังให้เสียด้วย
งอนว่าอย่างนั้นเถอะ ......... งอนมากๆ ก็อยู่ไปอีกนานๆ ก็แล้วกัน..
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น